13 ตุลาคม 2559

      คุณยังจำได้ไหมว่าวันที่ 13 ตุลาคม 2559 คุณกำลังทำอะไรอยู่ในช่วงเย็นของวันนั้น สำหรับผมในวันนั้นคือไปนังในห้องพระและห้องหนังสือ หยิบหนังสือเล่มเก่าๆ มาเปิดดูเรื่อยๆ เพราะจากที่มีข่าวลืออกมาหลายวันก่อนหน้านั้น วันนั้นจากข้อมูลที่ได้รับและลางสังหรณ์ทำไมก็ไม่รู้แต่คิดว่าวันนี้มีความรู้สึกว่าไม่ใช่ข่าวลือแล้วละ เลยไม่อยากดูทีวี ทั้งที่ปกติช่วงเย็นของทุกวันผมจะนั่งดูข่าวจากทีวีช่องต่างๆอยู่เสมอ นั่งอ่านหนังสือไปเรื่องๆตั้งแต่หกโมงกว่าๆ จนเวลาทุ่มเศษแฟนก็เดินมาบอกว่าข่าวออกเป็นทางการแล้วนะ มีการประกาศมีนายกรัฐมนตรีมาพูด คงวามรู้สึกตอนนั้นคือใจหาย ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง รู้มานานแล้วด้วยจาการเสนอข่าวต่างๆและข้อมูลจากคนที่รู้จักรอแต่เพียงว่าวันนี้จะมาถึงเมื่อไหร แฟนบอกข่าวเสร็จ ผมก็ยังนั่งหยิบหนังสือมาอ่านเรื่อยๆ เรื่องนี้บ้างอ่านไปสักนิดก็หยุด ไปหยิบอีกเรื่องมาอ่าน อ่านไปสมองก็ยังรับรู้สิ่งที่อ่าน แต่ความรู้สึกใจหายทำอะไรไม่ถูกก็ยังรู้สึกอยู่ตลอดเวลา นั่งอยู่ในห้องหนังสืออยู่แบบนี้นจนสี่ทุ่มจึงลงมาหาอะไรกินไปนิดหน่อยเพราะยังไม่ได้กินข้าวเย็นและผมมียาที่ต้องกินหลังอาหาร แล้วหยิบ ipad มานั่งเปิดดูคลิปข่าวและประกาศต่างๆที่มีออกมาในช่วงหนึ่งทุ่ม
ตลอดตนนั้งอ่านข่างนในเวปต่างๆ เข้าไปดูโซเชี่ยลว่าใครเขียนอะไรยังไงบ้าง จนเที่ยงคืนความรู้สึกใจหายก็ยังอยู่เลยกลับไปที่ห้องหนังสือทำเหมือนเดิม แต่เปิด ipad ไปด้วยดูรายการทีวีจาก app ว่าจะมีประกาศอะไร มีข่าวคนเริ่มไปรวมตัวกันริมถนนตามเส้นทางที่จะมีพิธีการในวันที่ 14 ตุลาคม โดยเริ่มทะยอยไปเรื่อยๆ ทั้งๆพิธีจะมีในช่วงบ่าย ข่าวของช่องต่างๆก็มีแต่ภาพของคนร้องไห้เสียใจ หรือสีหน้าทีเศร้าหมอง เรานั่งดูไปก็คิดฟุ้งซ่่านไปหมดว่าจะไปไหม จะทำอะไรดี ความรู้สึกใจหายก็อยู่ยังมีอยู่ตลอดเวลา นั่งแบบนั้นจนเกือบตีสอง แฟนก็มาถามว่าจะทำอะไรหรือเปล่า พอว่าว่าไม่ได้ทำอะไร แฟนก็บอกว่าไปนอนได้แล้วผมไม่สบายอยู่ด้วย ผมบอกว่าอีกสักพักจะตามไปนอน แล้วก็นั่งดุเฟซต่างๆไปเรื่อยจนไปเจอเฟซบางเฟซมีคนบางคนโพสแสดงความดีใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งคนเหล่านั้นก็เป็นกลุ่มคนที่หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ก็เลยโพสรายงานไปยังหน่วยราชการต่างๆ ตามช่องทางต่างๆที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็น กระทรวง ICT,สำนักนายก,ทหาร รวมไปถึงเฟซบุคด้วย ซึ่งความรู้สึกในตอนนั้คือโกรธจากการอ่านข้อความที่คนเหล่านี้โพส และยิ่งอ่านก็ยิ่งเจอว่ามีคนเหล่านี้อยู่เยอะเหมือนกันมีอยู่ทั้งฝรั่งเศส, อเมริกา, นิวซีแลนด์และหลายคนที่ไม่ได้แสดงที่อยู่ อ่านไปก็คิดไปว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น ทำไมเขาถึงรู้สึกดีใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเป็นคนไทยที่เติบโตมาขนาดนี้ได้ยังไง ไม่เคยเรียนไม่เคยรู้ถึงเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นสำหรับคนไทยและปรเทศไทยตลอดเวลา 70 ปีที่ผ่านมาเลยเหรอ อายุแต่ละคนก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วมีตั้งแต่เกือบ 20 ไปจนถึงห้าหกสิบ เขาอยู่ในประเทศไทยมาได้ยังไง ไปรับรู้ขอ้มูลอะไรมาจนทำให้เกิดความรู้สึกแบบนั้นได้ จากความรู้สึกใจหายก็กลายเป็นโกรธและนั่งไล่หาเฟซของคนกลุ่มนั้นจากคนที่เข้ามาคอมเม้นท์ไล่ไปเรื่อยๆ พื่อกดรายงายให้ทุกเฟซ จนประมาณตีสามเริ่มเจอว่ากดเข้าไปดูไม่ได้แล้วเพราะเข้าเปลี่ยนเฟซจาก public เป็น private คุยเฉพาะกลุ่มกันเอง จึงเลิกแล้วคิดว่าไปนอนก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะไปทำงานไม่ไหว ผ่านมาจะครบปีแล้วผมก็ยังไม่เห็นข่าวว่าหน่วยงานราชการของไทยหน่วยงานไหนไปจัดการกับคนพวกนี้ได้เลย นานๆทีก็มีข่าวออกมาบ้างแต่ไม่ใช่ข่าวที่เราคาดหวังว่าจะมีการจับกุมคนเหล่านี้เลย ก็ไม่รู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไร เพราะในความคิดผมข้อความที่พวกเขาโพสกันในวันนั้นน่าจะเป็นหลักฐานที่ดำเนินคดีกับพวกเขาได้ทุกคน จนถึงทุกวันนี้ผมยังรู้สึกโกรธอยู่ถ้านึกถึงข้อความที่คนเหล่านั้นโพส เพราะมันน่าเกลียดเหลือเกิน ช่วงหลายวันหลังจากนั้นผผมก็นั่งพยายามหาเฟซของคนกลุ่มนี้เพื่อจะได้ส่งรายายอีกแต่ก็ทำไม่ได้แล้วเพราะมีแต่ private หมดเลย ส่วนอารมณ์และความรู้สึกในช่วงนั้นก็มีแต่ความเสียใจยิ่งถ้ามีเพลงที่มีการแต่งออกมาเพื่อระลึกที่ที่พระองค์ท่านทำมาตลอด 70 ปีทั้งเพลงที่เคยแต่งไว้ก่อนแล้วหรือเพลงใหม่ๆ นั่งดูทึกครั้งก็น้ำตาไหลทุกครั้ง  ผ่านมาจะครบ 1 ปีแล้วก็ยังดูเพลงพวกนี้ไม่ค่อยได้ ดูแล้วใจหายตลอด ในเพลงที่แต่งออกมาทั้งหมดมีเพลงอยู่เพลงนึงที่ผมฟังแล้วคิดว่าตรงกับความรู้สึกของผมในวันนั้นมากคือเพลง 13 ตุลา หนึ่งทุ่มตรงเพลงของคุณธเนศ วรากุลนุเคราะห์

13 ตุลา หนึ่งทุ่มตรง

เนื้อร้อง-ทำนอง 
ธเนศ วรากุลนุเคราะห์

เรียบเรียง
โกมล บุญเพียรผล

BUTTERFLY STUDIO
คณิต พฤกษ์พระกานต์ 
เรืองรัตน์ กุลวงษ์ 
เกรียงไกร กุศลจริยากูล

เสียงประสาน
ณัฐธิตา วงศ์พรหม
รวิอร สวัสดิสุข



และขอทิ้งท้ายด้วยคำบรรยายที่คุณธเนศ โพสไว้ใต้คลิปว่า

ความรู้สึกใดๆที่เกิดขึ้นในค่ำคืนวันที่ 13 ตุลานั้น แม้ยากที่จะลืมหรือลบเลือนไปได้ ขอให้เป็นเพื่อนเตือนใจว่าการสูญเสียผู้ที่เรารักเทิดทูนบูชานั้นเจ็บปวดแค่ไหน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น และเราควรจะทำยังไงต่อไป เชื่อว่าทุกคนจะมีคำตอบของตัวเอง"


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ราคาน้ำดื่มขวดเล็ก